กำหนดเวลาต่าง ๆ ที่ต้องย่อลง ของ วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา_2019

ประเด็นต่าง ๆ ทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาของกลุ่มประชากรที่อ่อนแอ และปัญหาการผลิตวัคซีนเป็นพัน ๆ ล้านโดสล้วนอาจกดดันให้ย่อกำหนดเวลาต่าง ๆ ในการพัฒนาวัคซีนและในบางกรณี อาจรวมระยะการทดลองทางคลินิกหลายระยะเข้าด้วยกันแล้วทำพร้อม ๆ กันโดยใช้เวลาแค่เดือน ๆ ซึ่งปกติต้องทำเป็นลำดับต่อ ๆ กันเป็นปี ๆ[45]ยกตัวอย่างเช่น ผู้พัฒนาวัคซีนประเทศจีนและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีน (Chinese Center for Disease Control and Prevention) ได้เริ่มงานพัฒนาวัคซีนในเดือนมกราคม 2020[75]แต่เพียงแค่ถึงเดือนมีนาคม ก็กำลังตรวจดูวัคซีนแคนดิเดตเป็นจำนวนมากโดยใช้กำหนดเวลาที่ย่อลง และมีจุดประสงค์เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีจีนเหนือของสหรัฐ และเพื่อให้ชาวจีนมั่นใจถึงคุณภาพวัคซีนที่ผลิตในจีน[45][76]

เพื่อเร่งพัฒนาวัคซีนในกำหนดเวลาย่อ ๆ สำหรับโรคระบาดทั่ว ทั้งผู้พัฒนาวัคซีนและรัฐบาลได้ยอมรับความเสี่ยงเมื่อลัดวงจรพัฒนาวัคซีนปกติ[44]ผู้บริหารของอุตสาหกรรมคนหนึ่งถึงกับกล่าวว่า "วิกฤติการณ์ของโลกใหญ่จนกระทั่งเราแต่ละคนจะต้องยอมเสี่ยงที่สุดเดี๋ยวนี้เพื่อยุติโรคนี้"[44]มีเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายเรื่องรวมทั้งระดับความเป็นพิษที่ยอมรับได้ (คือความปลอดภัย) การตั้งเป้าที่กลุ่มประชากรที่อ่อนแอ ความก้าวหน้าอย่างมากของประสิทธิศัยก์วัคซีนที่ต้องมี ระยะการป้องกันของวัคซีน ระบบการส่งยาพิเศษ (เช่น ให้ทางปากหรือทางจมูก แทนที่จะะฉีด) ขนาดการให้ยา ความเสถียรของวัคซีนและวิธีการเก็บในคลัง การอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉินก่อนได้รับอนุมัติทั่วไป วิธีการผลิตดีที่สุดเพื่อให้ได้วัคซีนเป็นพัน ๆ ล้านโดส และการแจกจำหน่ายวัคซีนที่ได้อนุมัติ[18][77]ถ้านับเริ่มจากการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 วัคซีนถึงร้อยละ 84-90 ล้มเหลวในช่วงพัฒนาการแล้วไม่ได้รับอนุมัติให้วางตลาดขาย[20][78] ถ้าเริ่มจากการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 วัคซีนร้อยละ 25.7 ล้มเหลวและไม่ได้รับอนุมัติโดยที่สุด[78]ผู้ผลิตวัคซีนอาจจะลงทุนไปแล้วเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณสามหมื่นหนึ่งพันล้านบาท) โดยได้ผลิตวัคซีนเป็นล้าน ๆ โดสไปแล้วที่ใช้ไม่ได้[18][45][44]ในกรณีของโควิด-19 โดยเฉพาะ ประสิทธิศักย์ของวัคซีนที่อัตราร้อยละ 70 อาจพอระงับการระบาดทั่ว เพราะถ้ามีประสิทธิศักย์เพียงร้อยละ 60 การระบาดก็ยังอาจต่อไปได้และประสิทธิศักย์ที่น้อยกว่าร้อยละ 60 จะไม่ก่อภูมิคุ้มกันหมู่พอระงับการกระจายเชื้อโดยตนเอง[18]

โรคที่ระบาดทั่วในปี 2020 ได้สร้างปัญหากับสถาบันวิจัยเพราะการเว้นระยะห่างทางสังคมและการปิดแหล็บ[79][80]อุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนก็ขลาดแคลนขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการซื้อแข่งขันกันในระดับนานาชาติหรือการเข้ายึดของรัฐ[53]กำหนดเวลาต่าง ๆ สำหรับการทดลองทางคลินิก ซึ่งปกติเป็นกระบวนการที่ทำเป็นลำดับต่อ ๆ กันโดยใช้เวลาเป็นปี ๆ ก็กำลังย่อเป็นการทดลองตรวจความปลอดภัย ประสิทธิศักย์ และหาขนาดยาที่ทำพร้อม ๆ กันโดยใช้เวลาเป็นแค่เดือน ๆ ซึ่งอาจมีผลต่อความปลอดภัย[45][44]

แพลตฟอร์มเทคโนโลยี

ในเดือนกันยายน 2020 นักวิทยาศาสตร์ของเซพีรายงานว่า มีแพลตฟอร์เทคโนโลยี 9 แพลตฟอร์มที่กำลังวิจัยและพัฒนาในช่วงปี 2020 เพื่อสร้างวัคซีนต้านโควิด-19โดยยังมีวัคซีนแคนดิเดตเป็นจำนวนมากที่ไม่ระบุแพลต์ฟอร์มเทคโนโลยี[27]แพลตฟอร์มโดยมากสำหรับวัคซีนที่อยู่ในช่วงทดลองทางคลินิกจนถึงเดือนกันยายนได้เล็งโปรตีน spike ของไวรัสและรูปแบบต่าง ๆ ของโปรตีนนี้เพื่อใช้เป็นแอนติเจนหลักในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค[27]แพลตฟอร์มที่กำลังพัฒนาในปี 2020 รวมเทคโนโลยีกรดนิวคลีอิก (คือ เอ็มอาร์เอ็นเอที่ดัดแปลงนิวคลีโอไซด์ [[[modRNA]]] หรือดีเอ็นเอ), เวกเตอร์ไวรัสที่ไม่ขยายพันธุ์, เพปไทด์, โปรตีนจากยีนลูกผสม, ไวรัสโควิดลดฤทธิ์ที่ยังเป็น และไวรัสโควิดที่ฆ่าแล้ว[81][27][18][20]

เทคโนโลยีวัคซีนที่กำลังพัฒนาเพื่อโควิดหลายอย่างไม่เหมือนกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ใช้กันอยู่แล้ว แต่จัดเป็นของใหม่ที่ทำงานเฉพาะเจาะจงกับกลไกการแพร่เชื้อของโควิด[20][81][27][20]เทคโนโลยีที่ใช้ยังอาจเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการแอนติเจน และบางอย่างอาจมีประสิทธิผลดีกว่าในกลุ่มประชากรย่อยต่าง ๆ รวมทั้งคนชรา เด็ก หญิงมีครรภ์ และคนไข้ที่ภูมิต้านทานอ่อนแอ[27][20]

วัคซีนแคนดิเดตที่อาจสร้างโปรตีนของไวรัส SARS-CoV-2 แล้วทำให้ภูมิคุ้มกันตอบสนองรวมทั้ง (1) เอ็มอาร์เอ็นเอที่เข้ารหัสยีนของไวรัสซึ่งทำให้เซลล์สร้างโปรตีนของไวรัส (2) เป็นโปรตีนที่ผิวหุ้มไวรัสแบบลูกผสม (3) เวกเตอร์ไวรัสที่มียีนของ SARS-CoV-2 ซึ่งทำให้เซลล์สร้างโปรตีนของไวรัสผังแสดงการทำงานของวัคซีนอาร์เอ็นเอ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ชนิดหนึ่งที่ใช้ในวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคและของบริษัทโมเดิร์นาเอ็มอาร์เอ็นเอซึ่งอาจบรรจุอยู่ในอนุภาคนาโนที่เป็นลิพิดจะเข้าไปในเซลล์แล้วได้การแปลรหัสเป็นโปรตีนของไวรัสโควิด-19 ซึ่งก่อการตอบสนองจากภูมิคุ้มกัน แล้วทำให้ภูมิคุ้มกันรู้จักโปรตีนของไวรัส เมื่อติดเชื้อโควิด-19 ในอนาคต ก็จะตอบสนองต่อเชื้อได้อย่างเข้มแข็งและรวดเร็ว
แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของวัคซีนโควิด‑19 (16 ธ.ค. 2020)[1]
แพลตฟอร์ม[lower-roman 1] จำนวนแคนดิเดต จำนวนที่กำลังทดลองในมนุษย์
ไวรัสโควิด-19 ที่ฆ่าแล้ว[lower-roman 2] 19 5[lower-roman 3]
หน่วยย่อยโปรตีนของไวรัสโควิด-19[lower-roman 4] 80 4[lower-roman 3]
เวกเตอร์ไวรัสที่ไม่ขยายพันธุ์[lower-roman 5] 35 4[lower-roman 3]
ใช้อาร์เอ็นเอ[lower-roman 6] 36 3[lower-roman 3]
ใช้ดีเอ็นเอ[lower-roman 7] 23 2[lower-roman 3]
อนุภาคคล้ายไวรัส[lower-roman 8] 19 1
เวกเตอร์ไวรัสที่ยังขยายพันธุ์[lower-roman 9] 23 0
ไวรัสโควิด-19 เป็น ๆ แต่ลดฤทธิ์แล้ว[lower-roman 10] 4 0
  1. มีวัคซีนแคนดิเดตเป็นโหล ๆ ที่ไม่ระบุเทคโนโลยี[1]
  2. Inactivated virus
  3. 1 2 3 4 5 มีวัคซีนแคนดิเดตหนึ่งอย่างหรือยิ่งกว่าในการทดลองระยะที่ 2 หรือ 2-3
  4. Protein subunit
  5. Non-replicating viral vector
  6. RNA-based
  7. DNA-based
  8. Virus-like particle
  9. Replicating viral vector
  10. Live attenuated virus

ใกล้เคียง

วัคซีนโควิด-19 วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค วัคซีนโควิด-19 ของออกซฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้า วัคซีนเชื้อลดฤทธิ์ วัคซีน วัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา วัคซีนอาร์เอ็นเอ วัคซีนโควิด-19 สปุตนิกวี วัคซีนโควิด-19 BBIBP-CorV ของซิโนฟาร์ม วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

แหล่งที่มา

WikiPedia: วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา_2019 http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=5552... http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=5665... http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=6258... http://www.cloverbiopharma.com/index.php?m=content... http://scholar.google.com/scholar?q=Yasumura+Kawak... http://www.pmlive.com/pharma_news/gsk,_medicago_la... http://www.walvax.com/wosen/28.aspx http://xinhuanet.com/english/2021-01/03/c_13963778... http://www.fda.gov/ohrms/dockets/ac/00/backgrd/361... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14667748